นาฬิกา franck muller หนึ่งในนาฬิกาที่ดีที่สุดและซับซ้อนที่สุดในโลก

นาฬิกา franck muller เราไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่านาฬิกาสุดหรูหรา

นาฬิกา franck muller สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์อย่าง Rolex (โรเลกซ์) เป็นนาฬิกาชั้นสูงที่ราคาแพงแพง มีคุณค่า ด้านจิตใจ มีลักษณะเด่นก็คือความคงทน ความเที่ยงตรง ถึงขนาดได้รับกาจัดลำดับจากแมกกาซีน บิสซีเนสวีค (Businessweek) ให้นาฬิกา

Rolex ติดอันดับ 71 จาก 100 แบรนด์ทั่วทั้งโลก ว่าเป็นแบรนด์ชั้นแนวหน้าและก็ผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม (ข้อมูลปี คริสต์ศักราช 2007) แน่ๆว่านาฬิกา Rolex ยังเป็นสิ่งที่สุภาพบุรุษทั่วทั้งโลก ตั้งแต่สมัยก่อนจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ต้องการ อะไรที่ทำให้นาฬิกาเชื้อชาติสวิสนี้ ยังเป็นที่ชื่นชอบรวมทั้งครอบครองใจกรุ๊ปลูกค้าได้มาอย่างยาวนาน พวกเราจะพาคุณไปพบกับการเดินทาง เรื่องราวแบรนด์ Rolex แบรนด์ที่เปลี่ยนเป็น Icon นาฬิการะดับ Luxury

ความเป็นมาแบรนด์ Rolex เริ่มขึ้นโดย นาย ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ (Hans Wilsdorf) เกิดเมื่อวันที่ 22 มี.ค. คริสต์ศักราช 1881 ที่ เมืองคูล์มบาค สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เป็นลูกของ นางแอนท้องนา ไมเซล (Anna Micelle) แล้วก็ นายโจฮัน เดเนล เฟอร์เดียน วิลส์ดอร์ฟ (Johan Daniel Ferdinand Wilsdorf) ครอบครัวมีพี่น้อง 3 คน โดยที่วิลส์ดอร์ฟเป็นลูกคนกลาง แต่ ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ จะต้องสูญเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก ถัดมาเมื่อเขาอายุได้ราวๆ 12 ปี พ่อของเขาก็ได้เสียชีวิตลงไป

ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ และก็ลูกพี่ลูกน้องของเขาได้กลายเป็นลูกกำพร้า แต่ก็ไม่เป็นปัญหาที่จะทำให้จิตใจของเขาอ่อนแอ หรือคิดท้อถอยต่อชีวิต คุณลุงของ ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ ได้เลี้ยงดูพวกเขาให้เข้าเรียนโรงเรียนกินนอนที่สุดยอดที่สุดในขณะนั้น พร้อมด้วยได้รับการศึกษาวิจัยที่ดีอีกด้วย ก็เลยทำให้

ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ ศึกษาค้นพบตนเองว่าเขาสนุกสนานกับการที่ได้เรียนภาษา แล้วก็เขาพอใจในวิชาคำนวณอย่างมากมาย เมื่อจบ ฮันส์ วิลส์ดอร์ฟ ก็เลยได้ตกลงใจเริ่มอาชีพเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทส่งออกเพชรนิลจินดา โดยได้โอกาสได้ติดต่อกับผู้สร้างรวมทั้งผู้บริโภค

ไม่กี่ปีถัดมา วิลส์ดอร์ฟ ได้เดินทางสืบเสาะหาประสบการณ์เพิ่มเติมอีกที่เมือง La Chaux De Fonds ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อหาประสบการณ์เมืองนอก แล้วก็ฝึกหัดภาษาไปในตัว เขาได้ดำเนินงานเป็นเป็นพนักงานในบริษัทส่งออกนาฬิกาแห่งหนึ่ง วิลส์ดอร์ฟได้ตั้งคำถามว่า เพราะเหตุใดนาฬิกาของสวิสเซอร์แลนด์ถึงได้มีมูลค่ามากยิ่งกว่าประเทศอื่น เขาก็เลยได้เริ่มเรียนรู้อุตสาหกรรมนาฬิกาจากนั้นมา

เวลาถัดมา วิลส์ดอร์ฟ ก็ได้เจอกับปัญหาใหม่ที่ยากขึ้น เพราะว่าในยุคนั้นนาฬิกามีขนาดใหญ่แล้วก็มีน้ำหนักเยอะ ใส่ไม่ค่อยสบายสำหรับการใช้งาน ก็เลยจำเป็นต้องจะต้องพกไว้ที่กระเป๋ากางเกงหรือทำเป็นสร้อยแขวนคอแค่นั้น ซึ่งสมัยนั้นเป็นสมัยแรกๆที่พึ่งเริ่มการสร้างนาฬิกาสำหรับใส่ข้อมือออกวางขาย แต่ว่านาฬิกาสำหรับใส่ข้อมือในสมัยนั้นจัดได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่น ที่ไม่ค่อยมีความคงทน ไม่กันฝุ่นละออง ไม่กันน้ำ แล้วก็เข็มนาฬิกาก็ยังไม่ตรงอีกด้วย

เมื่อมองเห็นแบบนั้น วิลส์ดอร์ฟ ก็เลยเกิดแนวคิดที่จะออกแบบนาฬิกา

สำหรับใส่ข้อมือที่มีคุณภาพขึ้นมา แต่ว่าความฝันเขาก็ต้องหยุดลงอย่างกระทันหัน เมื่อเขาต้องไปปฏิบัติงานรับราชการทหารอยู่ราว 2 ปี ภายหลังถูกปลดจากการทำหน้าที่ วิลส์ดอร์ฟ ก็เลยเดินทางกลับมาที่อังกฤษ เพื่อสานฝันของเขาต่อ โดยการค้นหาดำเนินงานในโรงงานผลิตนาฬิกาโดยเฉพาะ

ที่มา 5 ตัวเขียนที่สื่อถึงความเหนือระดับ เมื่อ วิลส์ดอร์ฟ อายุได้ 24 ปี เขามีประสบการณ์ แล้วก็ความรู้ความรู้ความเข้าใจมากพอ ที่จะตั้งบริษัทเกี่ยวกับการสร้างนาฬิกาเป็นของตัวเอง เมื่อปี คริสต์ศักราช 1908 วิลส์ดอร์ฟ ก็ได้ตั้งบริษัทที่มีชื่อว่า Wilsdorf and Davis ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ โดยที่ วิลส์ดอร์ฟแล้วก็น้องเขยของเขาเป็นหุ้นส่วนกัน โดยเป้าหมายหลักของบริษัทเป็นนาฬิกาประสิทธิภาพสูงอยู่ในราคาที่สมควร

ในตอนนั้น วิลส์ดอร์ฟ ได้กระทำการวางแบบและก็ผลิตนาฬิกาแบบพก (Pocket Watch) เพื่อเอามาปรับปรุงต่อ ใส่เป็นตัวเรือนของนาฬิกาสำหรับใส่ข้อมือ แต่ว่าในระยะเริ่มต้น เขาให้บริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งในสวิสเซอรแลนด์ ที่มีชื่อว่าบริษัท Aegler เป็นผู้สร้างตัวเรือนนาฬิกาให้ รับซื้อ Franck Muller

แต่ก็ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับ วิลส์ดอร์ฟนัก เนื่องจากนาฬิกาที่ดีควรจะมีความเที่ยงตรงของเวลา มากกว่านี้ เมื่อผ่านไปสักระยะ วิลส์ดอร์ฟ ก็ได้เลิกทำสัญญาการรับตัวเรือนที่ผลิตขึ้นมาจาก บริษัท Aegler แล้วหันมาสร้างตัวเรือนนาฬิกาของเขาเอง

ถัดมา วิลส์ดอร์ฟ อยากให้บริษัทของตนมีชื่อเรียกที่กระทัดรัด ไม่ยุ่งยากต่อการอ่านออกเสียงในทุกภาษา ก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Rolex (โรเลกซ์) เป็นบริษัทผลิตนาฬิกาแบบครบวงจร เกี่ยวเนื่องถึงตัวหน้าปัด ตัวเรือนนาฬิกา รวมถึงกลไลของนาฬิกา โดยคอนเซ็ปต์ของ Rolex เป็นความหรูหราโอ่อ่า น่าไว้ใจ ซึ่งบริษัทได้ขึ้นทะเบียนยี่ห้อในปี คริสต์ศักราช 1908

เมื่อปี คริสต์ศักราช 1910 เป็นช่วงๆเริ่มกิจการค้าอย่างเป็นจริงเป็นจัง แบรนด์ Rolex เอาใจใส่กับประสิทธิภาพของนาฬิกาเป็นอย่างมาก สำหรับการผลิตนั้นสิ่งที่ให้ความเอาใจใส่เป็นขั้นตอนแรกหมายถึง“ในเวลาที่เที่ยงตรง” Rolex ได้ตกลงใจส่งนาฬิกาไปยัง School of Horology

ซึ่งเป็นสถานศึกษาสำหรับศึกษารวมทั้งผลิตนาฬิกาโด่งดัง แล้วก็ Rolex ก็สามารถครอบครองรางวัลได้ ในฐานะนาฬิกาเรือนแรกของโลกที่ได้รับรองความตรงไปตรงมาจาก Official Watch Rating Centre ที่เมืองเบียนน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยเป็นมาตรฐานรับประกันระดับความเที่ยงธรรมสำหรับเพื่อการดำเนินการของนาฬิกาจักรกล จากสถาบันที่มีชื่อว่า C.O.S.C (Controle Officiel Suisse Des Chronometer)

โดยความถูกต้องของนาฬิกา Rolex ได้นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความน่าใว้วางใจ ทำให้เกิดการปฎิวัติวงการนาฬิกา ให้มีนวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้น แบรนด์ Rolex ได้ปรับปรุงขึ้นไปอีกขั้น โดยการคิดค้นรวมทั้งดีไซน์ให้ตัวเรือน กันน้ำ กันฝุ่นละออง โดยใช้ระบบเม็ดมะยมแบบเกลียว (Screw Crown)

ซึ่งสิ่งใหม่ของ Rolex นั้น ได้ถูกเอามาโปรโมทอย่างชาญฉลาด รับซื้อ Franck Muller

เมื่อคนรู้เรื่องความพิเศษได้ง่ายมากขึ้นเป็นการเสนอภาพผลิตภัณฑ์ภายใต้อควาเรียม โชว์หน้าร้านค้าโดยมีนาฬิกาอยู่ในโลกใต้สมุทร อันเป็นการแสดงให้มองเห็นถึง คุณลักษณะกันน้ำได้อย่างเห็นได้ชัด จากจุดนี้ก็เลยทำให้ Rolex ดังไปทั่วทั้งโลก

ถัดมา Kew Observatory หรือหอสังเกตการณ์ที่การทดสอบเกี่ยวกับวิทยาศาตร์มีชื่อของอังกฤษ ได้มอบหนังสือรับรองความแม่นยำระดับ “A” ให้กับนาฬิกาสำหรับใส่ข้อมือของ Rolex ในปี คริสต์ศักราช 1914 ซึ่งนับว่าเป็นรางวัลอันมีคุณค่าอีกใบของ Rolex เลยก็ว่าได้ เนื่องจากการยืนยันนี้รักษาไว้เฉพาะกับนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงตรงของนาวิกโยธินแค่นั้น นั้นก็เลยเป็นการตอกย้ำประสิทธิภาพของแบรนด์ว Rolex ว่าเป็นนาฬิกาที่บอกเวลาที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด

เนื่องจากขณะที่โรงงานตั้งอยู่ที่ กรุงลอนดอน อังกฤษนั้น Rolex ก็เลยพบวิกฤติในตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ภาษีนำเข้าพุ่งมากถึง 33% ทำให้การนำเข้าอะไหล่จากสวิสเซอร์แลนด์นั้นมากเกินกว่าที่จะจัดการไหว ในปี คริสต์ศักราช 1919 Rolex ก็เลยได้ตกลงใจย้ายไปตั้งที่ทำการอยู่ที่ กรุงเจนีวา

ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเมืองที่เป็นที่รู้จักด้านการสร้างนาฬิกาสุดยอด แล้วก็ได้ลงบัญชีบริษัทใหม่ชื่อว่า Montres Rolex S.A. ซึ่งชื่อนี้ก็สามารถมีชื่อเสียงในบรรดาผู้สร้างนาฬิกาชั้นหนึ่งระดับนานาชาติได้ในระยะเวลาเพียงไม่นาน

ปี คริสต์ศักราช 1926 นาฬิกาที่สามารถกันน้ำได้เรือนแรกของโลกจาก Rolex ซึ่งนับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของบริษัท โดยผลิตนาฬิกามีชื่อว่า “Rolex Oyster” นาฬิกาเรือนนี้ซีลอย่างแนบสนิท

มีคุณลักษณะกลไกลการปฏิบัติงานของนาฬิกากันน้ำได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อปี คริสต์ศักราช 1927 Rolex ได้มีการพิสูจน์ประสิทธิภาพของ Rolex Oyster ซึ่ง เมอเซเดส กลีด (Mercedes Gleitze) นักว่ายหญิง คนอังกฤษ ได้ใส่ว่ายผ่านช่องแคบของอังกฤษ ประกาศถึงการบรรลุผลอันยิ่งใหญ่ของบริษัท

ปี คริสต์ศักราช 1928 Rolex ได้ออกนาฬิกา รุ่น Prince ออกแบบสี่เหลี่ยม 2 หน้าปัด การออกแบบที่งดงามประหลาดตา รับซื้อ Franck Muller นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความครึกโครมในอุตสาหกรรมนาฬิกา มีผู้พึงพอใจรวมทั้งจองจำนวนมาก กระทั่งขึ้นชื่อว่าเป็นนาฬิกาที่ขายได้มากที่สุดในตอนนั้น

และก็เมื่อ ปี คริสต์ศักราช 1931 Rolex ได้คิดค้น เพิ่ม การประดิษฐ์ระบบเหวี่ยงขึ้นลานอัตโนมัติ หรือ Rotor (โรเตอร์) วางแบบเป็นรูปครึ่งวงกลมสามารถหมุนขึ้นลานได้อย่างอิสระ ซึ่งสร้างพลังงานสำรองจากผู้ใส่ได้ จนถึงนำมาซึ่งระบบ Perpetual อัตโนมัติขึ้น

ในปี คริสต์ศักราช 1945 ได้เกิด Rolex Datejust นาฬิกาสำหรับใส่ข้อมือที่มีกลไลอัตโนมัติเรือนแรก ซึ่งบอกวันที่เอาไว้ในหน้าปัด ที่มากับสาย Jubilee (จูบิลี่) เป็นคอลเล็กชั่นพิเศษเป็นสายสแตนเลสสตีลเรียงกัน ที่นิยมเป็นสีเงินสลับกับสีทอง ซึ่งขอบหน้าปัดเป็นจุดร่อง เป็นเอกลักษณ์ของคอลเลคชั่น Oyster ซึ่งการสร้างคราวแรกนั้นเน้นเพียงแค่ของสุภาพบุรุษ เมื่อเวลาผ่านไปถึงดีไซน์เพื่อคุณผู้หญิง

วิลส์ดอร์ฟ ได้ เสียชีวิตลง ตอนวันที่ 6 กรกฏาคม ปี คริสต์ศักราช 1960 ด้วยวัย 79 ปี

แม้ว่าตัวจะจากไป แม้กระนั้นเขาได้ทิ้งผลงานรวมทั้งสิ่งใหม่ที่มีค่าไว้มาก นาฬิกาที่เป็นที่รู้จักของ Rolex พูดได้ว่าบรรลุผลสำเร็จอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมนาฬิกา แบรนด์ Rolex เป็นหัวหน้าด้านการคิดค้น ผลิตนาฬิกาที่ดีเยี่ยมที่สุดและก็ฉลาดสูงที่สุด อันเป็นต้นแบบให้กับนาฬิกาในปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น

การแสดงวันที่ในนาฬิกาในรุ่น Datejust, ระบบ Day-Date หรือการแสดงชื่อจริงของวัน, สิ่งใหม่การอ่านเวลาได้ง่ายถึงแม้อยู่ในความมืดใน รุ่น Explorer, ของใหม่กันน้ำในระดับความลึก 100 เมตร (330 ฟุต) ของ Submariner, การแสดงสองเขตเวลาพร้อมของรุ่น GMT-Master เหมาะกับผู้เดินทาง นักเดินทาง รวมทั้ง Milgarss เป็นรุ่นที่ทนต่อสนามไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 1,000 เท่า เหมาะกับนักวิทยาศาสตร์

Rolex เป็นนาฬิกาแบรนด์หรูเพียงแค่แบรนด์เดียว ซึ่งสามารถผลิตได้ 2,000 เรือน ต่อ 24 ชั่วโมง รายได้ต่อวันคร่าวๆอยู่ที่ 3 พันดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 91,164 ล้านบาท/วัน) โดยอายุของแบรนด์อยู่ที่ราว 114 ปี นับว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาที่มีความเก่าแก่แบรนด์หนึ่งของโลก ซึ่งแบรนด์ได้ให้ความสำคัญในนาฬิกาทุกเรือน จนกระทั่งกำเนิดเป็น Rolex มีการออกแบบที่ยอดเยี่ยม ส่งต่อไปยังการทดลองแล้วทดลองอีก จากผู้ชำนาญอย่างมีระบบ

ก็เลยไม่น่าแปลกใจถ้าหากนาฬิกาแบรนด์นี้จะราคาแพง franck muller ช็อปไทย ราคา แล้วก็แน่ๆว่ามีบุคคลที่จะยอมจ่ายเพื่อได้ครอบครอง Rolex สักเรือน เพราะว่านาฬิกา Rolex นี้ มีมูลค่าทางด้านจิตใจอันเหนือกว่าคุณค่าทางข้าวของ มีคุณค่าสามารถเป็นมกรดกสืบทอดไปยังคนรุ่นลูกรุ่นหลานได้ รวมทั้งยังได้รับการตั้งชื่อว่าเป็น Icon ของนาฬิกา Luxury อีกด้วย

Franck Muller นาฬิกาที่กลไกสลับซับซ้อนที่สุดในโลก เมื่อคิดถึงนาฬิกา Brand name สุดยอดคงจะหนีไม่พ้น Franck Muller ที่ควรจะมีติด 1 ใน 5 ชื่อ แบรนด์นาฬิกาที่ใครๆก็ต้องรู้จัก หรือแม้กระทั้ง ศิลปิน Hollywood ก็มีกันอยู่ในคอลเลคชั่นสะสม แม้กระนั้นจะมีคนไหนบ้างที่ทราบว่าในความเป็นจริงแล้ว Franck Muller จะต้องฝ่าฝันปัญหาต่างๆมากมายก่ายกองในอดีตกว่าจะมีชื่อเสียงแบบในตอนนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *